top of page

ข้อน่ารู้เกี่ยวกับบานอฟฟี่

วันนี้ OTTO KITCHEN CLUB นำสาระน่ารู้ดีๆมาฝากกันอีกเช่นเคยจ้า

“บานอฟฟี่” เชื่อว่าเป็นเมนูของหวานที่หลายๆคนชื่นชอบแน่ๆ ด้วยรสชาติกรุบกรอบมันเค็มนิดๆของฐานที่ทำจากแครกเกอร์ บิสกิตหรือคุกกี้ ผสานกับรสชาติหวานหอมของคาราเมลและกล้วยหอม ตบท้ายด้วยวิปครีมแสนนุ่ม ใครได้ลองต้องติดใจ จนบางท่านอ่าจอยากจะลองทำเมนูนี้เองที่บ้าน วันนี้ OTTO KITCHEN CLUB จึงนำเทคนิคเคล็ดลับ และข้อน่ารู้ต่างๆของบานอฟฟี่มาฝากกันค่ะ

ข้อน่ารู้เกี่ยวกับบานอฟฟี่

บานอฟฟี่ (Banoffee) มาจากคำว่า Banana ( กล้วย ) กับ Toffee ( คาราเมล ) บานอฟฟี่มีหลายรูปแบบ สามารถทำใส่ถ้วย หรือจะทำเป็นปอนด์ ที่เรียกว่า บานอฟฟี่ พาย ก็ได้เช่นกัน บานอฟฟี่เป็นขนมหวานสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ส่วนประกอบหลักๆคือ ฐานของขนมที่ทำจากแครกเกอร์ บิสกิต หรือคุกกี้ บดละเอียด ทอฟฟี่คาราเมล กล้วยหอม และตกแต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีม บีบเป็นรูปทรงต่างๆ คาราเมลที่ใช้ในบานอฟฟี่มีวิธีทำหลากหลายสูตร เช่น คาราเมลสำเร็จรูป หรือคาราเมลแบบที่ทำจากน้ำตาล เนย นมข้นหวาน นำมาเคี่ยว หรือคาราเมลแบบที่นำนมข้นหวานต้มจนเป็นสีน้ำตาล วิธีการคือ ตั้งน้ำที่ไฟปานกลางและนำกระป๋องนมข้นลงไปต้มทั้งกระป๋องโดยไม่ต้องเปิดฝา ต้มประมาณ 2 ชม. (หากต้องการให้คาราเมลมีสีน้ำตาลเข้มมากก็ให้ต้มนานขึ้น) ซึ่งการทำทอฟฟี่คาราเมลวิธีนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน หลายๆสูตรจึงนิยมทำคาราเมลโดยใช้น้ำตาลทรายผสมกับนมข้นหวานแทน

ส่วนฐานบานอฟฟี่อาจเลือกใช้ไดเจสทีฟบิสกิต คุกกี้เนย คุกกี้ช็อกโกแลต หรือแครกเกอร์รสที่ชอบ ก่อนทำ บดให้ละเอียดคลุกเคล้ากับเนยละลายให้เข้ากันแล้วกรุลงพิมพ์ และที่สำคัญคือต้องแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาให้ฐานเซ็ทตัวอย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาใช้ในขั้นตอนต่อไป ส่วนขั้นตอนการทำคาราเมลแบบที่ใช้น้ำตาล เมื่อต้มน้ำตาลด้วยไฟกลาง(ใช้หม้อที่ทนความร้อน)จนน้ำตาลละลายเป็นสีอำพันตามต้องการแล้ว ใส่วิปปิ้งครีมอุ่นลงไป เพื่อไม่ให้คาราเมลกระเด็น และตามด้วยใส่ส่วนผสมที่เหลือ เช่น นมข้นหวาน เนย หรือเกลือ

Tips.

  1. การทำคาราเมลควรใส่น้ำตาลให้กระจายทั่วก้นหม้อ ระหว่างเคี่ยวไม่ควรคน เพราะน้ำตาลจะตกผลึก ถ้ากลัวไหม้ให้ใช้วิธีเขย่าหม้อเบาๆ

  2. ข้อควรระวังในการทำคาราเมลคือ ไม่ควรใส่ของเหลวที่เย็น ลงในคาราเมลร้อนๆ เพราะจะทำให้คาราเมลกระเด็นและเป็นอันตรายได้ เพราะเหตุนี้เราจึงต้องนำวิปปิ้งครีมตั้งไฟให้พออุ่นก่อนที่จะใส่ลงในคาราเมล

  3. ควรเลือกใช้กล้วยหอมสุก เพราะรสชาติจะหวานกว่า

หวังว่าสาระน่ารู้ในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยนะคะ หากชื่นชอบสาระน่ารู้ที่แอดมินนำมาฝาก อย่าลืมกดไลค์และกดแชร์เพื่อแบ่งปันความรู้แก่เพื่อนๆ และเพื่อเป็นกำลังใจให้แอดมินหาสาระน่ารู้ดีๆมาฝากกันอีกในคราวต่อไปนะคะ ^__^ ................................................... 📌ติดตามข่าวสาร สาระน่ารู้ เกี่ยวกับอาหาารและเบเกอรี่ และสูตรอาหาร เบเกอรี่ต่างๆมากมาย ได้ที่ 🍰www.facebook.com/ottothailandclub 🍰www.ottokitchenclub.com 🍰Line ID : @ottokitchenclub

Recent Posts
Search By Tags
Archive
Follow Us
  • Facebook Basic Square
bottom of page